"วันนึงโตขึ้น เราจะไม่เป็นคนแบบนั้น คนแบบที่เราไม่ชอบ"
มุมมองครั้งนี้อยากเตือนวัยรุ่น
วัยของความครึ่งๆกลางๆ ระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่
ถ้าไม่หมั่นเตือนใจตัวเองไว้
โตไปเราก็จะเป็นผู้ใหญ่แบบที่เราเคยไม่ชอบนั่นแหละ
เพราะโตขึ้นลาภ ยศ สรรเสริญก็จะตามมาเป็นธรรมดา
แตกต่างจากวัยเด็กที่ใครๆก็สอนให้เรานอบน้อมและเคารพทุกคนอยู่เสมอ
อยากเล่าเรื่องผู้ใหญ่บางท่านที่เคยพบแล้วประทับใจให้ฟัง ซึ่งทุกคนในเรื่องเล่าก็กลายเป็นไอดอลของเราในด้านนั้นๆไปแล้ว
1. #ผู้ใหญ่และผู้บริหารที่นอบน้อม คงไม่คุ้นกับการที่ผู้ใหญ่ไหว้เด็กก่อน เจอป้าท่านนี้ทีไร แทบจะโยนข้าวของในมือทั้งหมดทิ้งเพื่อจะยกมือไหว้ก่อนให้ทัน ป้าไม่ได้ไหว้แค่เรา
ยาม แม่บ้านคือป้ายกมือไหว้หมด แม้การไหว้จะไม่ใช่ทุกสิ่ง แต่นั้นทำให้สัมผัสได้ว่าป้านอบน้อม ไม่เคยเบ่งใส่ใครและเป็นผู้ใหญ่ที่ทำให้เด็กๆอย่างเราอยากเข้าหาและเอาเป็นแบบอย่างอยู่เสมอ และป้านี่แหละที่เป็นแบบอย่างให้เราอยากทำกิจกรรมเพื่อสังคม
2. #ผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส ตั้งแต่มัธยมปลาย มีโอกาสได้เจออาจารย์อาวุโสท่านหนึ่งในค่าย ยศนำหน้าชื่อของ อ ในตอนนั้นคือ ศ.ดร.มรว. เห็นยศแล้วไม่รู้จะเข้าไปคุยอย่างไรดี ต้องทำเหมือนในข่าวพระราชสำนักหรือเปล่าเนี่ย ด้วยความเป็นเด็กบ้านนอกเลยคลานเข่า >< ตลกตัวเองจัง อาจารย์คุยแบบไม่ถือตัวเลย แล้วเด็กบ้านนอกวันนั้นก็ได้โอกาสเยอะแยะมากมายเพราะจุดเริ่มต้นครั้งนั้น ใครจะนึกว่าเด็กบ้านๆ ผมสั้น ตัวดำๆจะมีใครสนใจ..จริงมั้ย หลังจากนั้นก็ได้รู้จักการวิจัยมะเร็งมากขึ้น ได้ไปฝึกงาน แล้วนี่ก็มาเรียนต่อเรื่องมะเร็ง ทุกวันนี้ก็ยังติดต่ออาจารย์และส่งการ์ดวันครูให้อาจารย์ทุกปี คิดอยู่เสมอว่าถ้าวันนึงอยู่ในสถานะที่ให้โอกาสกับใครได้ เราก็จะให้ต่อเหมือนกับที่เราเคยได้รับมา
3. #ผู้ใหญ่ที่ไม่ถือตัว ครั้งหนึ่งเคยเข้าพบและได้ไปทานข้าวกับผู้บริหารระดับสูงของมูลนิธิจุฬาภรณ์ ท่านเป็นระดับคุณหญิง การพูดคุยในห้องทำงานเป็นกันเองมาก จากตอนแรกที่เรานั่งตัวเเข็งเป็นหุ่นยนต์ก็กลับมาเป็นคนได้อีกครั้ง >< จนตอนทานข้าว เข้าห้องอาหาร VIP ไปบุ๊ป เจอท่านฑูตนั่งทานอยู่ก่อน เรากำลังจะหันไปรินน้ำ แต่คุณหญิงหยิบแก้วไปรินให้เสียแล้ว นี่ว่าตัวเองเร็วแล้วนะ โอ้ววววทำไงดี จนท่านฑูตบอกว่าไม่เป็นไรทำตัวตามสบายเถอะ คุณหญิงรินให้แล้ว แล้วบทสนทนาในห้องอาหารก็ดำเนินต่อไปแบบสบายๆ
4. #ผู้ใหญ่และหมอที่เข้าใจคนไข้ ท่านเป็นหมอเจ้าของไข้ของเราเอง จากที่เคยคิดว่ายาเหมือนกันก็คือการรักษาเหมือนกัน ก็เปลี่ยนความคิดนี้ไปเลย เพราะการรักษาไม่ได้ต้องการแค่ยา แต่ต้องการคำแนะนำและหมอที่เข้าใจ มันให้ความรู้สึกเหมือนเรากับหมอเป็นทีมเดียวกันแล้วไปสู้รบตบมือกับโรค หมอทำให้เรารู้สึกว่ามีคนรับฟังและช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากโรค และหมอก็ช่วยเต็มที่จริงๆ เราเองก็เป็นคนไข้ที่เต็มที่เหมือนกัน หมอบอกอะไรมาทำหมด นอกจากมุมมองของคนไข้ เภสัชทุกคนก็ต้องเจอกับคนไข้ และเราก็จะเป็นเภสัชที่ดี ดูแลคนไข้ให้ดีแบบที่หมอดูแลเรา
วันที่เขียน 21 มีนาคม 2019
เวลาผ่านมา 6 ปี
ในระหว่าง 6 ปีนี้ คิดทบทวนดู
อยากเพิ่มผู้ใหญ่ในดวงใจอีก 3 คน
.
5. #ผู้ใหญ่ของครอบครัว ป้าๆกับลุง พอคิดย้อนไปตอนนี้เราก็โตพอที่จะเป็นน้า เป็นป้าคนได้แล้ว แต่ไม่ค่อยได้คิดเรื่องนี้เพราะพี่ๆน้องๆก็ไม่มีลูกกัน ตอนเด็กๆและจนมาถึงตอนนี้ ป้าน้อย ป้าเภา ลุงน้อย เป็นแบบอย่างเรื่องห่วงใยหลานๆ และเป็นธุระจัดการเรื่องในครอบครัวฝั่งบ้านยายมาตลอด การทำให้ครอบครัวรักและสามัคคีกันเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลย

6. #ผู้ใหญ่ที่สู้รบด้วยได้ 55555 อาจารย์ที่ปรึกษานั่นเอง เตรียม manuscript แต่ละฉบับเหมือนออกสงคราม หยิบดาบก่อนกดเข้า zoom ไรงี้เลยยยย แต่เถียงอาจารย์เฉพาะเรื่องวิทยาศาสตร์นะ นอกนั้นเป็นนักเรียนที่เรียบร้อยมากกกกก อิอิ คือมันสนุกนะ กับอาจารย์ท่านอื่นไม่น่าจะกล้าเลยแหละ วิจัยและวิทยาศาสตร์มันต้องฟีลนี้ ใครไม่สมเหตุสมผล แพ้!!! แล้วใครที่แพ้ ฉันเองจ้าาา แต่ยังสู้เก่ง กลัวกรรมตามทันจริงๆ เกิดต้องดูเเลเด็กๆนักเรียนขึ้นมานี่ แอร๊ 



7. #ผู้ใหญ่ที่วางตัวดี ผู้ใหญ่คนนี้เป็นรุ่นพี่คนหนึ่ง พี่เค้าวางตัวดีมาก น่าเกรงขาม ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ไม่ตัดสินใครง่ายๆ ทำงานเป็นทีมเริ่ดมากเว่อร์ เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีเหตุผลทุกขั้นทุกตอน การทดลองแป๊ะสุดๆ นอกจากจะพยายามตามพี่เค้าเรื่องการวางตัว (ซึ่งตัวฉันเองก็ยังวางอะไรไม่ได้สักอย่าง 555
) ก็ตามเรื่องวางแผนการทดลองด้วย 5555 ซึ่งอย่างหลังนี่ทำให้รอดชีวิตจากช่วงปริญญาเอกมาได้เลยแหละ

วันที่เขียน 21 มีนาคม 2025
ทั้งหมดนี้ ก็ได้แต่บอกว่า
ให้เตือนตัวเองอยู่เสมอ
จำความรู้สึกตอนเป็นเด็กๆไว้ให้ดี
ถ้าโตเป็นผู้ใหญ่ ก็ให้เป็นผู้ใหญ่แบบที่เราอยากเจอตอนเราเป็นเด็ก
เพราะโตเป็นผู้ใหญ่มันไม่ง่ายแต่จะเป็นเด็กตลอดไปก็คงไม่ได้เหมือนกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น