ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ช่วงรอยต่อก่อนจะเรียนต่อปริญญาเอก📚

ช่วงรอยต่อก่อนจะเรียนต่อปริญญาเอก📚

ระยะเวลา 1 ปีกว่าๆ ที่ตัดสินใจจะทำงานก่อนเรียนต่อ ทั้งเพื่อรอทุนเรียน และจัดการเรื่องที่บ้านให้ลงตัว
  • ตัวเอง ทุนเรียนค่อนข้างเรียบร้อย การสอบเข้าผ่านไปด้วยดี มีเงินเก็บสำรองแม้จะไม่มากเพราะนอกจากเรียนก็ต้องมีส่วนที่ใช้ในครอบครัว ถ้าไม่ทำงานก่อนคงจอดไม่ต้องแจว เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินการ สอบ ฯลฯ ก็เยอะอยู่ 
  • ได้ลองหาอาชีพเสริมเผื่อไว้ทำตอนเรียน ลองขายของใน ebay ig และก็ศึกษาเรื่องผู้แนะนำการลงทุน คงจะดีถ้าดูแลเงินอันน้อยนิดของตัวเองได้มีประโยชน์สูงสุด และคงดีด้วยถ้าแนะนำเพื่อนในก๊วนได้ด้วย ใครจะใช้บริการก็บอกได้ค้าบ ช่วงทำงานพยามไม่ใช้ชีวิตหวือหวา ไม่กล้ากินอะไรแพงๆ ใช้อะไรเว่อร์ๆ จะซื้อบ้างก็ของที่อยากได้มานานชิ้นสองชิ้น กลัวชีวิตติดหรูเดี๋ยวจะลำบากตอนเรียน 5555+ ความป่วยเยอะอยู่เพราะติดหวัดบ่อยมากจากร้านยา แต่มันก็ทำให้เรารู้จักจัดการกับความคาดหวัง บางทีมากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้แล้วแต่ช่วงจริงๆ ถ้าป่วยก็ต้องพักจะซ่าก็ไม่ควร แฮร่ๆ><

  • น้องสาว ตั้งใจจะอยู่เป็นเพื่อนนางในช่วงวิกฤตสอบเข้ามหาลัย ให้นางได้เห็นหน้าตอนตกมัน ช่วยตัดสินใจในบางเรื่อง เตรียมของ เตรียมตัวเข้าเรียน นางก็ได้คณะแพทย์สมใจอยาก และแอบป้ายยานางมาวิ่ง หวังจะเป็นสิ่งคลายเครียด(stress management) ของนางตอนเรียน

  • น้องชาย นางเป็นเด็กพิเศษ ก็พยายามพาไปหาหมอ ทำกายภาพ ดีใจที่ปั่นจักรยานแบบล็อคเท้าได้ผล แถมน้องชอบด้วย พยายามพาออกที่สาธารณะมากขึ้น ทั้งห้าง สวนสาธารณะมันก็ได้บ้างล่มบ้าง แต่ที่ชอบและบ่นถึงเสมอคือวัดที่เชียงใหม่ เราลุ้นกันทั้งบ้านว่าการขึ้นเครื่องจะมีปัญหามั้ยปรากฏว่าทำตาหวานใส่แอร์ตลอด 5555+ ผ่านฉลุย ไว้จะเก็บตังค์ให้ไปเที่ยวอีกนะ

    

 
  • ป๊า พยายามเรื่องสุขภาพกันมาตลอด จักรยานที่ทำราวตากผ้ามา 3-4 ปี กับน้ำสะสมที่พุ่งตลอด วันนึงถึงกับเตี๊ยมกับหมอ แล้วป๊าก็ยอมเปลี่ยนพฤติกรรม ดีใจมากเว่อร์ น้ำตาลสะสมก็ลด แถมคึกทั้งวิ่งทั้งปั่น(แบบค่อยเป็นค่อยไป)่

  • หม่าม๊า ได้เงินเดือนแรกก็ซื้อของที่ม๊าอยากได้ที่สุด(คืออะไรไปถามเอาเอง 555+ ใบ้ว่าใช้ทุกวันและคงกระพันแสนนาน) จัดการตรวจสุขภาพที่เสี่ยงทุกชนิดทั้ง pap smear, ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ จักรยานพร้อมหมวกเตรียมไว้ให้ และที่สำคัญคือหนี้สิน อะไรที่ดอกเบี้ยสูงๆก็กู้ใหม่มาปิดให้ เอาจริงไม่อายเลยที่มาเล่าเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ทุกครอบครัวจะพร้อมตั้งแต่ต้น ค่าใช้จ่ายที่แต่จะคนจะโตจนจบมาทำงานก็ไม่นิดๆ ถ้าวัยเรียนคนไหนผ่านมาอ่าน ตั้งใจเรียนและประหยัดไว้นะคะ บางทีพ่อแม่อาจจะไม่เคยคุยเรื่องหนี้สินเพื่อให้เราสบายใจ 
 
  • ก๋ง อาม่า ได้รับปริญญาสมใจแล้วนะ 5555+ ทิพย์กำลังพยายามในสิ่งที่ก๋ง อาม่าอยากได้มากที่สุดในรอบปีสองปีนี้ จะสำเร็จหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ได้พยายามเต็มที่และจะทำต่อไปฮ่ะ ^^

 

--- ดูเป็น 1 ปีกว่าที่คุ้มค่านะ ---
กลับเข้าสู่โหมดนักเรียน พร้อมๆกับโหมดประหยัดตังค์ ><่
 
เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2018  
 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 0

  Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 0 จากโพสก่อนที่เล่าถึงเส้นทางการวิจัยมะเร็ง ที่เริ่มเรื่องมาตั้งแต่ ม.5 - ป.เอก ตอนที่ 0 นี้คือเรื่องความสะเปะสะปะ กว่าจะมาถึงเส้นทางวิจัยและวิทยาศาสตร์ . เรื่องมันเริ่มมาจากโจทย์แค่ว่า ทำไมยายถึงต้องตายเพราะมะเร็ง ทำไมหมอช่วยยายไม่ได้ ถ้ามีทางดีดีที่ยายไม่ตาย เราก็คงไม่ต้องมานั่งร้องอยู่อย่างนี้ นั่นหล่ะความคิดเด็ก ม.2 . ตอนนั้นก็กวาดทุกอย่างที่ขวางหน้า หรือต้องเป็นหมอศัลย์นะ? หรือว่าต้องโภชนาการต้านมะเร็ง? หรือว่าต้องแบบหมอสมหมาย ทองประเสริฐ? สิงซีเอ็ดบุ๊คสุดๆ อ่านฟรีบ้าง ซื้อบ้าง (มัน 18 ปีก่อน เน็ตยังไม่แพร่หลาย 555) . พ่อกับแม่ก็พยายามสนับสนุนนะ คือเค้าจะเป็นสายแบบเป็นแบ็ค จะไม่ชี้นำ แต่ถ้าดีดจะไปทางไหน จะช่วยดัน มันหรือถีบนะไม่แน่ใจ . ช่วง ม.2 แม่ก็พาไปเจอรุ่นพี่ที่ทำงานเก่าของแม่ คุณลุง ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ที่มาบรรยายเกี่ยวกับงานวิจัยอะไรสักอย่าง จำได้เลยว่าใส่ชุดยุวกาชาด ไปนั่งฟังบรรยายซึ่งก็น่าจะไม่ค่อยรู้เรื่องด้วย แล้วก็ไปทานข้าวต่อกับวิทยากร ตอนนี้จำอะไรไม่ได้เลยว่าคุยอะไร จำได้อย่างเดียวคือ งานวิจัยนี่ดูเป็นอะไรที่เป็นเห...

Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 1

  Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 1   อยากบันทึกเรื่องราววิทยาศาสตร์ตอนวัยเด็กไว้สักหน่อย เป็นเรื่องราวที่อยากบันทึกไว้อ่านเอง ที่จริงควรจะเขียนตั้งแต่เหตุการณ์จบลงใหม่ๆ เพราะความรู้สึกจะยังคงสดใหม่ ภาษาก็อาจจะยังขำๆ กลับมาอ่านก็คงจะอมยิ้มไปอีกแบบ แต่บันทึกตอนนี้ก็ไม่สาย เพราะไม่รู้ว่าต่อไปวิทยาศาสตร์และงานวิจัย จะยังสดใสน่าตื่นเต้นเหมือนที่คิดตอนเด็กมั้ย งั้นรีบเขียนเลยแล้วกัน . บันทึกนี้คือบันทึกความรู้สึกที่อยู่ในใจ ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน บางส่วนอาจจะเกี่ยวข้องกับการเมืองยุคปัจจุบัน แต่ถ้าเสพด้วยใจที่เป็นกลาง เป็นเหตุเป็นผล เข้าใจบริบทของสังคม เวลา และเข้าใจว่าทั้งหมดคือเรื่องราววิทยาศาสตร์ไม่ใช่การเมือง เรื่องเล่าทั้งหมดจะไม่ชวนให้ตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด ขอใช้ภาษาตามประสาเด็กๆ เมื่อสิบกว่าปีก่อนหล่ะกัน . ชอบวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก แต่เรียนไม่ค่อยเก่งหรอก ชอบเล่นมากกว่า ทำของเล่นกับพ่อ หรือวุ่นวายกับสีดอกไม้หลังบ้านที่เอามาเล่นกับกรดเบส . จนหลังจากที่ยายเสียชีวิตเพราะมะเร็ง ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าทำไมหมอช่วยยายไม่ได้ ก็คิดนะว่าการแพทย์เป็นทางหนึ่ง แต่อาจจะมีทางที่ดีกว่า เขียนๆ...

Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 6

 Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 6   ตอนนี้ที่รอคอยยยย ว่าด้วยเรื่องราวตอนเรียนปริญญาเอก Scientific Lineage และ Mentor . จากเรื่องราวตอนก่อนๆ ตั้งแต่ ม.ต้น จนปี 6 ป ตรี เภสัช ที่ชีวิตว้าวุ่น กับการหาแลปเรียนต่อมากกว่าสอบใบประกอบวิชาชีพ . การเรียนต่อคือการเบี่ยงเข็มไปในทางที่ยิ่งแคบ ยิ่งเฉพาะทาง และแน่นอนเส้นทางอาชีพที่แคบลงไปอีก นี่ทำให้คิดหนักมากว่าเรียนอะไร ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ชอบวิจัยแบบไหนของมะเร็ง เพราะวิจัยมะเร็งนั้นกว้างมากกกกกกกกก . ถึงตรงนี้ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านๆที่ให้โอกาสได้ค้นหาตัวเองว่าชอบวิจัยมะเร็งแบบไหนนะคะ . ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เลยตัดสินใจเรียนปริญญาเอก สาขาเภสัชวิทยา ที่ศิริราช (มันคือ โทควบเอก ถ้าจบ ป ตรีด้วยเกียรตินิยม จะสมัครเรียนแบบนี้ได้เลยไม่ต้องผ่านโท) ซึ่งการเข้าเรียนแบบนี้ก็ถูกนับเป็นนักเรียน ป เอก แต่วิชาเรียนเยอะกว่า . การเรียน ป เอก นั้น จุดสำคัญคือทำวิจัยล้วนๆ แทบไม่มีอะไรผสม เอาหล่ะวะ สมใจอยาก 55555 อยากร่ำไปด้วยทำแลปไปด้วย สภาพพพพ . คือวิจัยนี่ไม่ได้เหมือนแลปที่เราทำตอนเรียนมัธยม ที่ใสๆกุ๊งกิ๊ง เพราะเป็นการทดสอบกฏหรือทฤษฎี ที่คนทั้งโลกทำมาเ...