ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

#นศภAndTheWard ภาคสุดท้าย วันที่ 4-6 (3/3)

 #นศภAndTheWard ภาคสุดท้าย วันที่ 4-6

วันที่ 4 

- มาถึงวอร์ดเร็วกว่าคนอื่นเลยเดินตามทีมแพทย์ราวน์ จากที่เมื่อวานพอจะตอบคำถามได้บ้างวันนี้เลยโดนถามอีก เป็นคำถามเกี่ยวกับยาจิตเวช ครัช เงิบครัช ไม่เรีรยนทีตอบไม่ถูก ตึ๊ง!!! (เห็นบรรยายสั้นแบบนี้ของจริงเงิบมากนะครัช บางทีก็คิดว่าข้า(พเจ้า)หน้าแก่ป่าวหว่ะ อาจารย์ชอบถามจัง T T มีคนบอกว่าดูมีภูมิต่ะหาก ภูมิอะไร? ภูมิแพ้กิหว๊าาา)

- เจอเงิบ แบบไม่ CPR เลยเลยฮ่ะ ตอนเช้า นศภ.น้ำทิพย์ยืนคุยเคสกับพี่หมอ extent ที่ปลายตรีน เอ้ย ปลายเตียงคนไข้ว่าด้วย Bradycardia ตกบ่ายมา นศภ.น้ำทิพย์ กำลังดูยาจากคอมซึ่งที่ตั้งคอมมันติดกับเตียงนั้นอ่ะนะ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงหญิงสาวร้องไห้ ฮึ๋ยยยย เตียงที่เรายืนปลายตรีนเมื่อเช้าเสียซะแล้ว เงิบ!!!! #RIP

วันที่ 5 วันจันทร์

- วันนี้พี่เภสัชไม่อยู่ฮ่ะ นศภ.น้ำทิพย์ กับพี่ นศภ.ปี 6 เลยเหมาๆ Med  reconcile รับใหม่ซะเกลี้ยง ward 

- เจอ case แพ้ยา SJS ด้วย พอเปิดรูปดูในเน็ทรูปลักษณะคนไข้ไม่เหมือนกันเลย แต่ไม่กล้าเข้าไปถามไว้พรุ่งนี้แล้วกัน

วันที่ 6

- ตอนเช้าตามเคส แพ้ยา SJS สืบอาการและการรักษามาอย่างดี จะได้หายสงสัยกันหล่ะทีนี้ พอไปถามประวัติคร่านี้ถึงบางอ้อเลยฮ่ะ อาการแสดงที่เราคิดว่ามันเกี่ยวกับ SJS ความจริงมันเกี่ยวโรคประจำตัวและการรักษาที่เค้าได้รับต่างหาก

- ตอนบ่ายไปดู case TDM ของยา Phenytoin หลังจากที่เฝ้ารอมาแสนนาน 

--------------------------------------------------------------------------------------

สาระนิดๆ

การแพ้ยา เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดกับผู้ป่วยคนไหนฮ่ะ เพราะงั้นอย่าด่าหมอ ด่าเภสัชเลยฮ่ะ สิ่งที่ทำได้คือเมื่อเกิดอาการแพ้ เช่น ผื่น ตาบวม ให้รีบกลับมาพบแพทย์ หรือจะไปปรึกาาเภสัชกรร้านยาก็ได้ฮ่ะ แต่!!!อาการที่เหมือนอาการแพ้ท้องเช่นคลื่นไส้ อาเจียน นั่นไม่ได้แปลว่าแพ้ยานะฮ่ะ มันไม่เหมือนกัน นั้นเรียกว่าผลข้างเคียงฮ่ะ สงสัยเรื่องยาถามหาเภสัชกรฮ่ะ

#นศภAndTheWard ก็จบลงแค่นี้ 

... ดูเหมือนข้าพเจ้าจะหรรษากับการอยู่วอร์ดนะฮ่ะ ความจริงตอนแรกไม่ชอบวิชาจำๆซึ่งเป็นวิชาที่ต้องใช้ที่ ward เลยฮ่ะ แต่พอเห็นคนไข้ยิ้มข้าพเจ้าก็ Happy ฮ่ะ รู้อยากหนังสือให้จำได้ จะได้เป็นประโยชน์ต่อทีมแพทย์และผู้ป่วยมากกว่านี้ฮ่ะ  อยู่โรงพยาบาลข้าพเจ้าลั้ลลาและ Happy กับ Ward มากจนมีพี่ๆถามว่าเรียนสายบริบาลเภสัชรึเปล่า พอรู้ว่าไม่ก็โดนถาว่า จะย้ายสายรึป่าว  ข้าพเจ้าตอบอย่างมั่นใจเลยว่าข้าพเจ้าชอบ science มากกว่า ^__^  แต่ข้าพเจ้าก็ชอบรอยยิ้มคนไข้นะ และข้าพเจ้าก็ชอบงานที่ท้าทายด้วย-- ลาก่อนฮ่ะโรงพยาบาลเราอาจจะได้เจอกันอีกตอนทำงานหรืออาจจะไม่เจอกันอีกเลย ^___^ บทความสวยๆของการฝึกงานทั้งหมดนี่จะอยู่ใน progress ส่งเจ้าของทุนที่ส่ง นศภ.น้ำทิพย์เรียนอยู่ทุกวันนี้ฮ่ะ ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้อ่าน และแน่นอนว่าคงไม่เผยแพร่สู่สาธารณะ อิอิ

...ด้วยความกระตือรือร้นเท่าที่จะทำได้

นศภ.น้ำทิพย์


เขียนเมื่อ 15 สิงหาคม 2558

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 0

  Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 0 จากโพสก่อนที่เล่าถึงเส้นทางการวิจัยมะเร็ง ที่เริ่มเรื่องมาตั้งแต่ ม.5 - ป.เอก ตอนที่ 0 นี้คือเรื่องความสะเปะสะปะ กว่าจะมาถึงเส้นทางวิจัยและวิทยาศาสตร์ . เรื่องมันเริ่มมาจากโจทย์แค่ว่า ทำไมยายถึงต้องตายเพราะมะเร็ง ทำไมหมอช่วยยายไม่ได้ ถ้ามีทางดีดีที่ยายไม่ตาย เราก็คงไม่ต้องมานั่งร้องอยู่อย่างนี้ นั่นหล่ะความคิดเด็ก ม.2 . ตอนนั้นก็กวาดทุกอย่างที่ขวางหน้า หรือต้องเป็นหมอศัลย์นะ? หรือว่าต้องโภชนาการต้านมะเร็ง? หรือว่าต้องแบบหมอสมหมาย ทองประเสริฐ? สิงซีเอ็ดบุ๊คสุดๆ อ่านฟรีบ้าง ซื้อบ้าง (มัน 18 ปีก่อน เน็ตยังไม่แพร่หลาย 555) . พ่อกับแม่ก็พยายามสนับสนุนนะ คือเค้าจะเป็นสายแบบเป็นแบ็ค จะไม่ชี้นำ แต่ถ้าดีดจะไปทางไหน จะช่วยดัน มันหรือถีบนะไม่แน่ใจ . ช่วง ม.2 แม่ก็พาไปเจอรุ่นพี่ที่ทำงานเก่าของแม่ คุณลุง ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ที่มาบรรยายเกี่ยวกับงานวิจัยอะไรสักอย่าง จำได้เลยว่าใส่ชุดยุวกาชาด ไปนั่งฟังบรรยายซึ่งก็น่าจะไม่ค่อยรู้เรื่องด้วย แล้วก็ไปทานข้าวต่อกับวิทยากร ตอนนี้จำอะไรไม่ได้เลยว่าคุยอะไร จำได้อย่างเดียวคือ งานวิจัยนี่ดูเป็นอะไรที่เป็นเห...

Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 1

  Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 1   อยากบันทึกเรื่องราววิทยาศาสตร์ตอนวัยเด็กไว้สักหน่อย เป็นเรื่องราวที่อยากบันทึกไว้อ่านเอง ที่จริงควรจะเขียนตั้งแต่เหตุการณ์จบลงใหม่ๆ เพราะความรู้สึกจะยังคงสดใหม่ ภาษาก็อาจจะยังขำๆ กลับมาอ่านก็คงจะอมยิ้มไปอีกแบบ แต่บันทึกตอนนี้ก็ไม่สาย เพราะไม่รู้ว่าต่อไปวิทยาศาสตร์และงานวิจัย จะยังสดใสน่าตื่นเต้นเหมือนที่คิดตอนเด็กมั้ย งั้นรีบเขียนเลยแล้วกัน . บันทึกนี้คือบันทึกความรู้สึกที่อยู่ในใจ ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน บางส่วนอาจจะเกี่ยวข้องกับการเมืองยุคปัจจุบัน แต่ถ้าเสพด้วยใจที่เป็นกลาง เป็นเหตุเป็นผล เข้าใจบริบทของสังคม เวลา และเข้าใจว่าทั้งหมดคือเรื่องราววิทยาศาสตร์ไม่ใช่การเมือง เรื่องเล่าทั้งหมดจะไม่ชวนให้ตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด ขอใช้ภาษาตามประสาเด็กๆ เมื่อสิบกว่าปีก่อนหล่ะกัน . ชอบวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก แต่เรียนไม่ค่อยเก่งหรอก ชอบเล่นมากกว่า ทำของเล่นกับพ่อ หรือวุ่นวายกับสีดอกไม้หลังบ้านที่เอามาเล่นกับกรดเบส . จนหลังจากที่ยายเสียชีวิตเพราะมะเร็ง ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าทำไมหมอช่วยยายไม่ได้ ก็คิดนะว่าการแพทย์เป็นทางหนึ่ง แต่อาจจะมีทางที่ดีกว่า เขียนๆ...

Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 6

 Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 6   ตอนนี้ที่รอคอยยยย ว่าด้วยเรื่องราวตอนเรียนปริญญาเอก Scientific Lineage และ Mentor . จากเรื่องราวตอนก่อนๆ ตั้งแต่ ม.ต้น จนปี 6 ป ตรี เภสัช ที่ชีวิตว้าวุ่น กับการหาแลปเรียนต่อมากกว่าสอบใบประกอบวิชาชีพ . การเรียนต่อคือการเบี่ยงเข็มไปในทางที่ยิ่งแคบ ยิ่งเฉพาะทาง และแน่นอนเส้นทางอาชีพที่แคบลงไปอีก นี่ทำให้คิดหนักมากว่าเรียนอะไร ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ชอบวิจัยแบบไหนของมะเร็ง เพราะวิจัยมะเร็งนั้นกว้างมากกกกกกกกก . ถึงตรงนี้ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านๆที่ให้โอกาสได้ค้นหาตัวเองว่าชอบวิจัยมะเร็งแบบไหนนะคะ . ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เลยตัดสินใจเรียนปริญญาเอก สาขาเภสัชวิทยา ที่ศิริราช (มันคือ โทควบเอก ถ้าจบ ป ตรีด้วยเกียรตินิยม จะสมัครเรียนแบบนี้ได้เลยไม่ต้องผ่านโท) ซึ่งการเข้าเรียนแบบนี้ก็ถูกนับเป็นนักเรียน ป เอก แต่วิชาเรียนเยอะกว่า . การเรียน ป เอก นั้น จุดสำคัญคือทำวิจัยล้วนๆ แทบไม่มีอะไรผสม เอาหล่ะวะ สมใจอยาก 55555 อยากร่ำไปด้วยทำแลปไปด้วย สภาพพพพ . คือวิจัยนี่ไม่ได้เหมือนแลปที่เราทำตอนเรียนมัธยม ที่ใสๆกุ๊งกิ๊ง เพราะเป็นการทดสอบกฏหรือทฤษฎี ที่คนทั้งโลกทำมาเ...