ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คะแนนสอบมันก็แค่...คะแนนสอบนั่นแหละ

คะแนนสอบมันก็แค่...คะแนนสอบนั่นแหละ

“เจเจ้ วันนี้โอเชี่ยนสอบที่โรงเรียนด้วย”
เสียงเด็กแสบระรื่นมาจากปลายสาย
ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าสอบตกหรือสอบผ่าน
.
จะว่าไปพอโตมาคะแนนสอบมันก็แค่คะแนนสอบนั่นแหละ
ไม่ใช่ว่าการวัดผลมันไม่สำคัญ
แต่ไม้บรรทัดอันเดียวจะใช้วัดทั้งชีวิตคงไม่ได้
.
หลังจากโตมาสักหน่อยก็รู้สึกว่า
การสอบได้ลำดับที่ดีดีในตอนประถม
ไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จในช่วงมัธยม
มหาลัย หรือช่วงชีวิตผู้ใหญ่เท่าไหร่นัก
.
ในวัยเด็ก
เพื่อนบางคน...เรียนเก่งมากกก เรียบร้อยมาก
ลายมือสวย ครูชมทุกวัน
พอเข้าวัยมัธยม กลับกลายเป็นอีกคน
แต่งตัวจัดจ้าน ใช้ชีวิตและการเรียนก็แย่ลง
เพื่อนบางคน...สอบเข้ามัธยมในห้องที่เรียนดีที่สุด
ช่วงหลังเกกมะเหรกเกเร
และต้องจบชีวิตลงเพราะความคึกคะนอง
เพื่อนบางคน...คึกอ่านหนังสือขึ้นมาก็ได้คะแนนดี
สอบอะไรที่อยากได้ก็ผ่าน แต่หลังจากเข้าไปได้ก็ทุลักทุเล
จนสุดท้ายก็ไม่ถึงปลายทาง
.
เพื่อนอีกหลายๆคน...บางคนอาจจะหวือหวา
บ้างก็เรื่อยๆ ไม่ได้โดดเด่น
เรียนจบ มีงานทำ บ้างก็มีครอบครัว
ก็คงจะถือได้ว่าประสบความสำเร็จในชีวิต
อย่างน้อยๆก็สำหรับช่วงวัยนี้
.
สุดท้ายก็ยังไม่รู้ว่าความสำเร็จที่ว่า
มีต้นเหตุต้นตอมาจากอะไร
สิ่งที่ครอบครัวปลูกฝัง?
ทัศนคติ? QE/IQ?
.
เพราะความสำเร็จมันอาจจะขึ้นกับว่า
สุดท้ายแล้วเนื้อแท้ของคนๆนั้นเป็นอย่างไร
ถ้าต้องอยู่ด้วยตัวเอง ผลักดันตัวเอง
จุดนั่นกระมัง จุดเริ่มต้นของวัยรุ่น
วัยที่เลือกอะไรๆ ด้วยตัวเอง
.
บ้างก็ว่า GRIT ที่มาจาก
ฉันทะ (Passion)+ วิริยะ (Perserverance)
คือกุญแจของความสำเร็จ
.
อาจจะมีอะไรมากมายกว่านั้นก็เป็นได้
แต่ที่แน่ๆคือไม่ได้มีแค่คะแนนสอบ

 

เขียนเมื่อ 1 กันยายน 2020  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 0

  Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 0 จากโพสก่อนที่เล่าถึงเส้นทางการวิจัยมะเร็ง ที่เริ่มเรื่องมาตั้งแต่ ม.5 - ป.เอก ตอนที่ 0 นี้คือเรื่องความสะเปะสะปะ กว่าจะมาถึงเส้นทางวิจัยและวิทยาศาสตร์ . เรื่องมันเริ่มมาจากโจทย์แค่ว่า ทำไมยายถึงต้องตายเพราะมะเร็ง ทำไมหมอช่วยยายไม่ได้ ถ้ามีทางดีดีที่ยายไม่ตาย เราก็คงไม่ต้องมานั่งร้องอยู่อย่างนี้ นั่นหล่ะความคิดเด็ก ม.2 . ตอนนั้นก็กวาดทุกอย่างที่ขวางหน้า หรือต้องเป็นหมอศัลย์นะ? หรือว่าต้องโภชนาการต้านมะเร็ง? หรือว่าต้องแบบหมอสมหมาย ทองประเสริฐ? สิงซีเอ็ดบุ๊คสุดๆ อ่านฟรีบ้าง ซื้อบ้าง (มัน 18 ปีก่อน เน็ตยังไม่แพร่หลาย 555) . พ่อกับแม่ก็พยายามสนับสนุนนะ คือเค้าจะเป็นสายแบบเป็นแบ็ค จะไม่ชี้นำ แต่ถ้าดีดจะไปทางไหน จะช่วยดัน มันหรือถีบนะไม่แน่ใจ . ช่วง ม.2 แม่ก็พาไปเจอรุ่นพี่ที่ทำงานเก่าของแม่ คุณลุง ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ที่มาบรรยายเกี่ยวกับงานวิจัยอะไรสักอย่าง จำได้เลยว่าใส่ชุดยุวกาชาด ไปนั่งฟังบรรยายซึ่งก็น่าจะไม่ค่อยรู้เรื่องด้วย แล้วก็ไปทานข้าวต่อกับวิทยากร ตอนนี้จำอะไรไม่ได้เลยว่าคุยอะไร จำได้อย่างเดียวคือ งานวิจัยนี่ดูเป็นอะไรที่เป็นเห...

Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 1

  Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 1   อยากบันทึกเรื่องราววิทยาศาสตร์ตอนวัยเด็กไว้สักหน่อย เป็นเรื่องราวที่อยากบันทึกไว้อ่านเอง ที่จริงควรจะเขียนตั้งแต่เหตุการณ์จบลงใหม่ๆ เพราะความรู้สึกจะยังคงสดใหม่ ภาษาก็อาจจะยังขำๆ กลับมาอ่านก็คงจะอมยิ้มไปอีกแบบ แต่บันทึกตอนนี้ก็ไม่สาย เพราะไม่รู้ว่าต่อไปวิทยาศาสตร์และงานวิจัย จะยังสดใสน่าตื่นเต้นเหมือนที่คิดตอนเด็กมั้ย งั้นรีบเขียนเลยแล้วกัน . บันทึกนี้คือบันทึกความรู้สึกที่อยู่ในใจ ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน บางส่วนอาจจะเกี่ยวข้องกับการเมืองยุคปัจจุบัน แต่ถ้าเสพด้วยใจที่เป็นกลาง เป็นเหตุเป็นผล เข้าใจบริบทของสังคม เวลา และเข้าใจว่าทั้งหมดคือเรื่องราววิทยาศาสตร์ไม่ใช่การเมือง เรื่องเล่าทั้งหมดจะไม่ชวนให้ตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด ขอใช้ภาษาตามประสาเด็กๆ เมื่อสิบกว่าปีก่อนหล่ะกัน . ชอบวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก แต่เรียนไม่ค่อยเก่งหรอก ชอบเล่นมากกว่า ทำของเล่นกับพ่อ หรือวุ่นวายกับสีดอกไม้หลังบ้านที่เอามาเล่นกับกรดเบส . จนหลังจากที่ยายเสียชีวิตเพราะมะเร็ง ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าทำไมหมอช่วยยายไม่ได้ ก็คิดนะว่าการแพทย์เป็นทางหนึ่ง แต่อาจจะมีทางที่ดีกว่า เขียนๆ...

Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 6

 Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 6   ตอนนี้ที่รอคอยยยย ว่าด้วยเรื่องราวตอนเรียนปริญญาเอก Scientific Lineage และ Mentor . จากเรื่องราวตอนก่อนๆ ตั้งแต่ ม.ต้น จนปี 6 ป ตรี เภสัช ที่ชีวิตว้าวุ่น กับการหาแลปเรียนต่อมากกว่าสอบใบประกอบวิชาชีพ . การเรียนต่อคือการเบี่ยงเข็มไปในทางที่ยิ่งแคบ ยิ่งเฉพาะทาง และแน่นอนเส้นทางอาชีพที่แคบลงไปอีก นี่ทำให้คิดหนักมากว่าเรียนอะไร ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ชอบวิจัยแบบไหนของมะเร็ง เพราะวิจัยมะเร็งนั้นกว้างมากกกกกกกกก . ถึงตรงนี้ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านๆที่ให้โอกาสได้ค้นหาตัวเองว่าชอบวิจัยมะเร็งแบบไหนนะคะ . ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เลยตัดสินใจเรียนปริญญาเอก สาขาเภสัชวิทยา ที่ศิริราช (มันคือ โทควบเอก ถ้าจบ ป ตรีด้วยเกียรตินิยม จะสมัครเรียนแบบนี้ได้เลยไม่ต้องผ่านโท) ซึ่งการเข้าเรียนแบบนี้ก็ถูกนับเป็นนักเรียน ป เอก แต่วิชาเรียนเยอะกว่า . การเรียน ป เอก นั้น จุดสำคัญคือทำวิจัยล้วนๆ แทบไม่มีอะไรผสม เอาหล่ะวะ สมใจอยาก 55555 อยากร่ำไปด้วยทำแลปไปด้วย สภาพพพพ . คือวิจัยนี่ไม่ได้เหมือนแลปที่เราทำตอนเรียนมัธยม ที่ใสๆกุ๊งกิ๊ง เพราะเป็นการทดสอบกฏหรือทฤษฎี ที่คนทั้งโลกทำมาเ...